1. ใบพัด
- ตรวจเช็คเป็นประจำทุก ๆปี ตรวจเช็คว่ามีสิ่งแปลกปลอมหรือสิ่งสกปรกเข้าไปติดที่ใบพัดหรือไม่เพราะจะทำให้ใบพัดสั่นและส่าย เกิดการเสียสมดุลและจะส่งผลให้เกิดการสึกหรอของลูกปืนและพู่เล่ย์ ซึ่งทำให้อายุการใช้งานของอุปกรณ์เหล่านี้สั้นลง
- ทำความสะอาดใบพัดเป็นประจำทุกๆ ปี โดยเฉพาะใบพัดแบบโค้งหน้า ( forward curve ) ซึ่งตัวใบจะเป็นแอ่งโค้งไปข้างหน้า ถ้ามีสิ่งสกปรกมาสะสมตัวอยู่ที่ใบมาก ๆจะส่งผลให้ทำปริมาณลมได้น้อยกว่าปกติหรือทำให้ใบพัดเสียสมดุลและจะส่งผลให้ลูกปืนสึกหรอเร็วหรืออายุการใช้สั้นลง
- ตรวจเช็คใบพัดว่ามีการเกิดสนิมและการกัดกร่อนหรือชำรุดเสียหายหรือไม่ ถ้าใบพัดอยู่ในสภาพใช้งานได้ควรนำใบพัดไปทำสีใหม่ พร้อมทั้งทำการตั้งศูนย์ ( balance ) ใบพัดใหม่เพื่อความสมดุล
2. ตลับลูกปืน
- ควรตรวจเช็คว่าจารบีที่ตลับลูกปืนแห้งหรือยังและควรอัดจารบีเป็นประจำ ควรอัดจารบีของใหม่เข้าไปเติมในส่วนที่ขาดหายไปหรือถ้าอัดจนจารบีของเก่าล้นออกมานอกตลับลูกปืนควรเช็ดออกให้หมดเพราะถ้าไม่เช็ดออกจะทำให้จารบีที่ล้นออกมาปั่นเอาเศษฝุ่นละอองหรือสิ่งสกปรกเข้าไปปะปนในตลับลูกซึ่งจะทำให้อายุการใช้งานสั้นลดลง
- ควรตรวจเช็คว่าลูกปืนเสียงดังและมีความร้อนสูงมากผิดปกติหรือไม่ อุณหภูมิปกติของลูกปืนไม่ควรเกิน 70 องศาเซลเซียสซึ่งสาเหตุที่ทำให้ลูกปืนเสียงดังและร้อนผิดปกติอาจเกิดจากการตั้งสายพานตึงเกินไป หรือลูกปืนหมดอายุในการใช้งาน ซึ่งอายุการใช้ของลูกปืนจะอยู่ที่ 5 ปี ถ้าลูกปืนหมดอายุการใช้งานแล้วยังฝืนใช้งานอยู่อาจจะทำให้ลูกปืนล็อคได้ถึงขั้นทำให้แกนเพลาสึกได้
3. พู่เล่ย์
- ควรตรวจเช็คพู่เล่ย์เป็นประจำทุก ๆ ปี ว่าอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ตามปกติหรือไม่ อายุการใช้งานของพู่เล่ย์อยู่ที่ 7 ปี แต่การที่พู่เล่ย์จะมีอายุการใช้ครบ 7 ปีหรือไม่ขึ้นอยู่กับการปรับตั้งสายพาน ไม่ควรปรับตั้งสายพานหย่อนเกินไปเพราะจะทำให้เกิดการสลิป (slip) ของสายพานช่วงสตาร์ทพัดลมเป็นผลทำให้พู่เล่ย์สึกและอายุการการใช้งานสั่นลงกว่าปกติ
4. สายพาน
- ควรตรวจเช็คความตึงของสายพานพร้อมปรับตั้งสายพานใหม่ประมาณ 3 เดือน / ครั้ง
- การปรับตั้งสายพานสายพานทุกเส้นจะต้องมีความยาวและตึงเท่ากันทุกเส้น การตรวจเช็คความตึงของสายพานทำได้โดยใช้นิ้วหัวแม่มือกดลงบนสายพานหากสายพานหย่อนลงประมาณ 1 เซนติเมตรหรือประมาณเท่ากับความหนาของสายพานถือว่ามีความตึงพอเหมาะ สายพานมีอายุการใช้งานประมาณ 3 ปี ถ้าสายพานหมดอายุการใช้งานหรือมีการสึกหรอควรเปลี่ยนสายพานใหม่ทันที
5.. มอเตอร์
- ควรตรวจเช็คค่ากระแสไฟว่าสูงผิดปกติเกินกว่าที่ตั้งค่าไว้ครั้งแรกหรือไม่ ถ้ากระแสไฟเกิน (Over load ) สาเหตุอาจเกิดจากลูกปืนหมดอายุการใช้งานลูกปืนแตกซึ่งเป็นผลทำให้เกิดอุณหภูมิสูงที่มอเตอร์และทำให้ กระแสไฟสูงตามไปด้วย โดยปกติอุณหภูมิของมอเตอร์ไม่ควรสูงเกิน 100 – 120 องศาเซลเซียส ( ถ้าลูกปืนหมด อายุการใช้งานแล้วควรที่จะเปลี่ยนทันที เพราะถ้ายังฝืนใช้งานต่อลูกปืนอาจจะล็อคและส่งผลทำให้มอเตอร์ไหม้ได้ )
- อายุการใช้งานของลูกปืนอยู่ที่ 5 ปี
- มอเตอร์มีอายุการใช้งาน 15 ปี ( เมื่อใช้งานครบ 15 ปีควรเปลี่ยนมอเตอร์ตัวใหม่ หรือ นำมอเตอร์ตัวเก่าไปพันขดลวดใหม่ จึงนำกลับมาใช้งานได้ ) ทั้งนี้อายุขอมอเตอร์อาจจะขึ้นอยู่รูปแบบการใช้งานของพัดลมได้
6. แกนเพลา
- ควรตรวจเช็คแกนเพลาว่ามีการสึกหรอหรือไม่ โดยเฉพาะตรงที่ชุดลูกปืนครอบอยู่และตรงที่ดุมใบพัดยึดอยู่ ( กรณีถ้าลูกปืนหมดอายุการใช้งานแล้วยังฝืนใช้งานต่ออาจทำให้ลูกปืนล็อคส่งผลให้แกนเพลาสึกได้ ถ้าแกนเพลาสึกควรเปลี่ยนแกนเพลาชุดใหม่หากยังใช้ชุดเดิมอยู่จะทำให้ลูกปืนชำรุดและ เสียหายเร็วมาก )
- ควรตรวจเช็คว่าชุดแกนเพลาและชุดดุมใบพัดยังยึดล็อคกันแน่นอยู่หรือไม่ ถ้าสกรูหรือน็อตที่ใช้ยึดล็อคชุดดุมใบพัดกับแกนเพลาคายตัวออกมาหรือขันล็อคไม่แน่น ก็จะส่งผลให้แกนเพลาและชุดดุมใบพัดสึก
7. น็อตและสกรู
- ควรตรวจเช็ค น็อต และ สกรู ที่ใช้ยึดโครงสร้างพัดลมที่ฐานมอเตอร์ที่ใช้ยึดตุ๊กตาครอบลูกปืนที่ใช้ยึดเบลท์การ์ดครอบพู่เล่ย์ และสกรูที่ใช้ยึดดุมใบพัดกับแกนเพลา ตรวจเช็คน็อตทุกตัวว่าหลวมหรือคายตัวออกมาหรือไม่ พร้อมทั้งทำการขันน็อตและสกรูให้แน่นทุกตัว ( หากพัดลมติดตั้งในสถานที่ที่มีไอน้ำมันหรือใช้ดูด ไอน้ำมัน ควรจะตรวจเช็คอยู่เป็นประจำ เพราะน้ำมันเป็นสาเหตุทำให้น็อตและสกรูคลายตัว )
อย่าลืมทำการตรวจเช็คและดูแลบำรุงรักษาพัดลมระบายอากาศอยู่เป็นประจำตามขั้นตอนที่กล่าวมา จะช่วยท่านลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมในระยะยาวและช่วยยืดอายุการใช้งานของพัดลมระบายอากาศได้
ECOEN เยี่ยม เย็น เน้นประหยัดพลังงาน
The Economical Energy And Engineering
สนใจติดต่อ
Tel. : (02) 592-2656
Phone : (084) 512-6556
Fax : (02) 592-2875
Line : @ecoen
Email : ecoenthailand@gmail.com
Instagram : ecoen_thailand